Archive

Archive for October, 2011

“ไทยแลนด์ พาวิลเลียน แอมบาสเดอร์” ปั้นเยาวชนสู่ทูตแห่งท้องทะเลไทยทำหน้าที่ไกลถึงเกาหลี

October 14th, 2011 No comments

ทช.ต่อยอดงานเอ็กซ์โประดับโลก Yeosu International Exposition 2012 ณ เมืองยอซู เปิดโอกาสเยาวชนไทย สู่การเป็นทูตแห่งท้องทะเล ภายใต้โครงการ “ไทยแลนด์ พาวิลเลียน แอมบาสเดอร์” สร้างประสบการณ์-เพิ่มศักยภาพเยาวชนไทยในเวทีโลก พร้อมปั้นไทยแลนด์พาวิลเลียนเป็น 1 ใน 5 พาวิลเลียนยอดนิยม

นายเกษมสันต์ จิณณวาโส อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง(ทช.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) ได้จัดโครงการ ไทยแลนด์ พาวิลเลียน แอมบาสเดอร์ หรือ ทูตแห่งท้องทะเลไทย เพื่อสรรหาเยาวชนไทย ไปเป็นตัวแทนเผยแพร่วัฒนธรรมไทย และนำเสนอการบริหารจัดการท้องทะเลไทยในงาน Yeosu International Exposition 2012 ณ เมืองยอซู สาธารณรัฐเกาหลี ในระหว่างวันที่ 12 พฤษภาคม ถึง 12 สิงหาคม 2555 ซึ่งถือเป็นการร่วมงานเอ็กซ์โประดับโลกอีกครั้ง ของประเทศไทย หลังจากประสบความสำเร็จจากการร่วมงาน เซี่ยงไฮ้ เวิลด์เอ็กซ์โป 2010 เมื่อปีที่ผ่านมา

โดยไทยแลนด์พาวิลเลียนแอมบาสเดอร์ ที่เปิดรับสมัครในปีนี้ ต้องการเยาวชนเพื่อทำหน้าที่ใน 2 ส่วนสำคัญ ได้แก่ เจ้าหน้าที่ส่วนนิทรรศการ เพื่อเผยแพร่เอกลักษณ์ความโดดเด่นของมรดกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมความเป็นไทยผ่าน “อาคารศาลาไทย” และนักแสดงประจำอาคารศาลาไทย ซึ่งต้องมีความสามารถด้านการแสดง นาฏศิลป์ไทย ,นาฏศิลป์สากล หรือการแสดงผสมผสานระหว่างไทยและสากลที่แปลกใหม่สร้างสรรค์ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการแสดงประจำศาลาไทยและการแสดงประจำวันชาติ ในงาน Yeosu International Exposition 2012 ณ เมืองยอซู สาธารณรัฐเกาหลี

ทั้งนี้ในการหาตัวแทนประเทศไทยเพื่อเป็น ไทยแลนด์พาวิลเลียนแอมบาสเดอร์นั้น ได้ขยายคุณสมบัติผู้สนใจร่วมสมัคร จากกลุ่มเยาวชนสู่กลุ่มคนทำงาน อายุ 18-30 ปี โดยต้องเป็นผู้ที่มีความสามารถด้านภาษา ไทย เกาหลี และอังกฤษ มีใจรักในธรรมชาติโดยเฉพาะท้องทะเลและวัฒนธรรมไทย

“การเข้าร่วมงาน Yeosu International Exposition 2012 ณ เมืองยอซู สาธารณรัฐเกาหลี ของประเทศไทยในครั้งนี้ สามารถต่อยอดสู่สังคมผ่านกิจกรรมดีๆ ด้วยการเปิดเวทีคัดสรรเยาวชนไทยที่มีความสามารถไปทำหน้าที่แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมของ 2 ชาติ และยังเผยแพร่….ทะเลไทยและวัฒนธรรมไทยให้อีกหลายๆชาติที่เข้าร่วมงาน ถือเป็นการจุดประกายอีกหนึ่งสิ่งดีๆให้เกิดแก่สังคมคนรุ่นใหม่ ที่จะต้องหันมามองเรื่องของการดูแลอนุรักษ์ส่งแวดล้อมที่ยั่งยืนอย่างจริงจัง” นายเกษมสันต์กล่าว

อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ การร่วมงาน Yeosu International Exposition 2012 จัดขึ้น ภายใต้แนวคิด “The Living Ocean and Coast :Diversity of Resources and Sustainable Activities โดยประเทศไทยได้กำหนดแนวคิดการร่วมงานครั้งนี้ด้วยคอนเซ็ป “ Colors of Diversity : Capacity of Thailand และคาดหวังว่า ความน่าสนใจของทะเลไทย วัฒนธรรมไทยและความสามารถในการนำเสนอจะทำให้อาคารศาลาไทยเป็น 1 ใน 5 พาวิลเลียนที่ได้รับความนิยมสูงสูงจากกว่า 120 พาวิลเลียนอีกด้วย

สำหรับผู้มีความสามารถและสนใจเข้าร่วมโครงการ สามารถ ตรวจสอบคุณสมบัติและดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่ www.thailandpavilion2012 .com ยื่นใบสมัคร พร้อมหลักฐาน รูปถ่ายขนาด 2 นิ้ว 1 รูป , รูปถ่ายเต็มตัว 1 ใบ ขนาด 4”x6”,ใบรับรองผลการเรียน (Transcription) , สำเนาบัตรประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้าน ผ่านอีเมล info@thailandpavilion2012.com หรือส่งไปรษณีย์มาที่ บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) 545 ซอยปรีดีพนมยงค์ 42 สุขุมวิท 71 พระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กทม. 10110 วงเล็บมุมซอง ไทยแลนด์ พาวิลเลียน แอมบาสเดอร์ ส่งภายในวันที่ 22 ต.ค.2554

ในส่วนของผู้ผ่านการคัดเลือกจากหลักฐานและใบสมัคร เข้าสัมภาษณ์กับผู้ทรงคุณวุฒิ ในวันที่29ต.ค.2554 ที่บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) 545 ซอยปรีดีพนมยงค์ 42 สุขุมวิท 71 พระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กทม. ติดต่อสอบถามข้อมูล 02-725-9333 ต่อ 351,361,371,

View :2720

โปรโมชั่น และ Gadgets ตัวใหม่ ในงาน “คอมมาร์ต คอมเทค ไทยแลนด์ 2011”

October 14th, 2011 No comments

สำหรับมหกรรมสินค้าไอทีส่งท้ายปี Commart Comtech Thailand 2011 ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 3 – 6 พฤศจิกายน นี้ พบกับกองทัพแท็บเล็ตราคาพิเศษจากหลากหลายแบรนด์ชั้นนำที่มารวมพลกันมากกว่าครั้งไหน ๆ ตื่นตากับสีสันของสินค้าเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่เพิ่งเปิดตัวในต่างประเทศ ซึ่งนำมาจัดแสดงและมีให้จับจองกันในงาน รวมถึงร่วมประมูลเป็นเจ้าของได้ในราคาเกินคุ้ม เช่น Sony Tablet, Samsung Chromebook และ Nook Color อีบุ๊กจอสี เป็นต้น

NOOK COLOR

Nook Color อีบุ๊กจอสี


แท็บเลตขนาด 7 นิ้ว ที่แสดงสีสันของอีบุ๊กได้อย่างลงตัว เขื่อมต่อด้วย Wi-Fi มาพร้อมกับโอเอสอย่างแอนดรอยด์สามารถเชื่อมต่อเข้าสู่ Twitter และ Facebook ได้ ขนาดความละเอียดของหน้าจอที่ 1024×600 พิกเซล ใช้งานได้นานถึง 8 ชั่วโมง

SONY TABLET

Sony Tablet


แท็บเลตล่าสุดของโซนี่ ยังไม่มีจำหน่ายในประเทศไทยที่มีขนาดหน้าจอ 9.4 นิ้ว พร้อมด้วยระบบการเชื่อมต่อ Wi-Fi มาพร้อมกับแอนดรอยด์โอเอสล่าสุด และระบบเครื่องเสียงของโซนี่ ทำให้คุณเล่นไฟล์มัลติมีเดียด้วยระบบเสียงที่ไม่เหมือนใคร สำหรับการออกแบบได้ออกแบบให้หิ้วไปมาได้สะดวก และมีน้ำหนักเบาเพียง 598 กรัมเท่านั้น มีหน่วยความจำให้เลือก 2 ขนาด คือ 16GB และ 32GB

SAMSUNG CHROMEBOO

Samsung Chromebook


Samsung Series 5 ChromeBook เน็ตบุ๊คที่ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Chrome OS ซึ่งไม่เพียงแต่จะมีดีไซน์ที่สวยงาม-บางเบาน่าใช้เท่านั้น แต่มันยังมีสเป็กการทำงานของเครื่องที่น่าสนใจอีกด้วย Samsung Series 5 ChromeBook เน็ตบุ๊คที่มีความบางเป็นพิเศษแค่ 0.79 นิ้ว โดยจะทำงานด้วยระบบปฎิบัติการ Chrome OS ของ Google ภายในตัวเครื่องใช้โพรเซสเซอร์ดูอัลคอร์ Atom ของ Intel และแบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ทั้งวัน ซึ่ง Google ให้นิยามความหมายของการใช้งานได้ทั้งวันนี้ว่า สามารถใช้งานได้นานต่อเนื่อง 8.5 ชั่วโมง Samsung ให้ข้อมูลเกี่ยวกับ Series 5 ChromeBook ว่า มันมีหน้าจอขนาด 12.1 นิ้ว ความละเอียด 1280 x 800 พิกเซล ความสว่าง 300 nit และมีน้ำหนักเพียง 3.6 ปอนด์ (ประมาณ 1.63 กิโลกรัม) เชื่อมต่อการทำงานไร้สายด้วย Wi-Fi 802.11 หรือจะเลือกใช้เป็น 3G ก็ได้ มี USB 2.0 ให้ 2 พอร์ต เว็บแคม และแทร็คแพดแบบคลิกได้ (ข้อมูลจาก ARiP.co.th)

View :2970

รมว.ไอซีที แถลงข่าว กรณี ทวิตเตอร์ @PouYingluck โดนแฮค [Audio]

October 3rd, 2011 No comments

[Audio] รัฐมนตรีอนุดิษฐ์​นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารแถลงข่าวความคืบหน้าของกรณีทวิตเตอร์นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร แถลงเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2554 ที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

001_A_011_ICT

View :2414

มุมมองนักกฏหมาย กรณีทวิตเตอร์นายกฯ ยิ่งลักษณ์โดนแฮค

October 3rd, 2011 No comments

เมื่อเช้าหลังจากที่รัฐมนตรีอนุดิษฐ์​นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารแถลงข่าวความคืบหน้าของกรณีทวิตเตอร์นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตรเสร็จสิ้นตอนเช้าของวันนี้ อาจารย์ไพบูลย์​ อมรภิญโญเกียรติ นักกฎหมายด้านเทคโนโลยีสารสนเทศได้ทวิตแสดงความคิดเห็นดังนี้

@paiboona: น่าติดตามแถลงข่าวของไอซีทีกรณีแฮ็กทวิตเตอร์อย่างยิ่งโดยเฉพาะการตั้งข้อกล่าวหากับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นและการปรับใช้พรบคอมฯครับ

@paiboona: หลังไอซีทีแถลงผมจะวิเคราะห์ข้อเท็จจริงกับข้อกมครับว่าจะจับคนร้ายได้?ไอซีทีถูกแฮ็กทุกทีที่มีการเปลี่ยนขั้วการเมืองแต่ไม่เคยจับคนร้ายได้เลย?

เลยถือโอกาสสอบถามอาจาย์ดังนี้….​

@lekasina: ไม่แน่ใจว่า ขอข้อมูลอะไรไปบ้างค่ะ ทางนั้นเขาสามารถให้ข้อมูลบางอย่างได้ไหมคะ หากรัฐบาลร้องขออ่ะค่ะ

@paiboona: เป็นดุลยพินิจของทวีตเตอร์ครับ

@paiboona: เท่าที่เคยทำในทางคดีจะให้แค่ไอพีแต่ข้อมูลส่วนบุคคลไม่ให้ครับขัดต่อกมอเมริกา ทวีตเตอร์ยึดข้อกำหนดในเว็บไซท์เป็นหลักครับ

@paiboona: ที่สำคัญตอนนี้ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ต้องสงสัยเลยครับแล้วใช้อำนาจอะไรไปขอทวีตเตอร์ที่เป็นบริษัทที่มีที่อยู่ในต่างปท.ครับ

@paiboona: ทางปฏิบัติแค่ไอพีไม่พอครับยิ่งถ้ามืออาชีพจะปลอมไอพีและใช้ dynamic IP ครับแต่ถ้าเป็นมือสมัครเล่นอาจได้ผลครับ

@lekasina: แล้วเคสนี้อาจารย์มองว่า มืออาชีพไหมคะ

@paiboona: ส่วนตัวผมยังเชื่อว่าไม่มีการแฮกแต่เป็นเรื่องรหัสผ่านหลุดไปยังบุคคลภายนอกครับ แต่ขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นครับ

@paiboona: ฟังแถลงไอซีทีแล้วไม่เชื่อว่ารู้ตัวแล้วเร็วไปการทำCyber investigation ต้องใช้เวลาและคดีนี้ต้องมีการทำcomputer forensic เพื่อยืนยันตัวคนทำด้วย

ประเด็นขอข้อมูลจากทวิตเตอร์อเมริกาคงไม่ให้ครับ เพราะดูจากเนื้อหากระทู้ไม่น่าผิดกมอเมริกาครับเท่าที่ดูอาจจะเป็นแค่ไฟไหม้ฟางเหมือนที่คมช.เคยโดน

การแฮ็กFBหรือTwitterเป็นไปได้ยากมากเพราะดู algorhytm และระบบความปลอดภัยของทั้งสองเว็บยากต่อการแฮ็กมาก และupdatedตลอดเวลาปัญหาที่userมากกว่าครับ

ปัญหาในคดีส่วนใหญ่ในเมืองไทยช่องโหว่วของการใช้SMอยู่ที่ผู้ใช้ครับเช่นการจำรหัสผ่าน การแชร์รหัสผ่านในกลุ่มผู้ใช้. ลืม log out หลังใช้งานครับ

เมื่อคืน (คืนวันเกิดเหตุทวิตเตอร์นายกฯ ถูกแฮค) ได้สอบถามอาจารย์ไพบูลย์​ดผ่านไทม์ไลน์ทวิตเตอร์ดังนี้ค่ะ

@lekasina: คิดว่ากรณีนี้จะส่งผลอย่างไรต่อร่างพรบ.คอมพ์ฉบับปี.ที่ตอนนี้อยู่ที่ก.ไอซีทีบ้างไหมคะ

@paiboona: ถ้าจับไม่ได้ก็คงแก้กมให้รุนแรงขึ้นแน่นอนครับ

@paiboona: จริงๆแล้วการแฮ็กครั้งนี้เป็นดัชนีชี้วัดประสิทธิภาพของไอซีทีและหน่วยงานรัฐเป็นอย่างดีถ้าจับคนผิดไม่ได้แล้วถ้าปชชเป็นผู้เสียหายจะทำ?

@paiboona:ส่วนตัวผมว่าการปรับข้อกมกับการแฮ็กที่เกิดขึ้นชัดเจนและง่ายต่อการปรับใช้มากแต่หากไม่เข้าใจก็คงเสนอแก้กมแรงขึ้นซึ่งแก้ไขไม่ตรงจุด

@paiboona:เป็นไปได้ครับแต่ต้องตามว่าใครเป็นเจ้าภาพยกร่างครับ:) รัฐบาลชุดนี้ไม่น่าใช้ร่างรัฐบาลเดิมเพราะถูกวิจารณ์หนักมากครับ

@lekasina:อาจารย์เห็นด้วยไหมคะที่จะแยกเอาพรบ.คอมพ์ออกมาเป็น pure computer crime ไปเลยอ่ะค่ะ

@paiboona: ที่ถูกควรเป็นอย่างนั้นแต่ติดปัญหาที่กม.วิอาญา วิอาญาปัจจุบันไม่ให้อำนาจตำรวจและศาลรวบรวมพยานหลักฐานอิเล็กทรอนิกส์ก่อนฟ้องหรือแจ้งความถ้าไม่แก้วิอาญาก็คงต้องใช้พรบคอมฯไปก่อนครับ

@lekasina: แปลว่าหากจะมีการผลักดันร่างพรบ.คอมพ์อีกครั้ง จะไม่ร่างเดิมทียกสมัยรมว.จุติหรือคะ

@paiboona:คิดว่าคนละขั้วกันไม่น่าใช้ร่างเก่าครับ

@lekasina: อย่างนี้..ยกร่างนานไหมคะ หากทำกันตามกระบวนการปกติอ่ะค่ะ

@paiboona:ขึ้นอยู่กับทีมที่ยกร่างถ้ายกร่างดีๆ+ประชาพิจารณ์ก็น่าจะอย่างน้อย1ปีครับ

@lekasina: หากจะมีการปรับร่าง อาจารยืคิดว่มีประเด็นหลักๆ อะไรบ้างคะที่คนยกร่างชุดใหม่จะปรับแก้ จากร่างปัจจุบันอ่ะค่ะ

@paiboona: หลายประเด็นครับ >> ตัดเรื่องทำสำเนาออกครับเพิ่มเรื่องการยกเว้นความรับผิดของผู้ให้บริการตามม15อาจเลียนแบบDMCA กมอเมริกา ไม่จำเป็นต้องมีหน่วยงานเฉพาะ >> การได้มาซึ่งพยานหลักฐานฯลฯครับ >>ที่สำคัญยกเลิกการอบรมพนงไอซีทีหรือcyber cop ที่ใช้แบบเร่งด่วน 4วัน เป็น4เดือนตามกมและมีการอบรมด้านcomputer forensicอย่างจริงจัง

@lekasina หากมีการยกร่างใหม่จริงๆ และปรับแก้ตามประเด็นที่อจกล่าวมา จะทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์น้อยลงไหมคะ ได้รับการสนับสนุนมากขึ้นไหมคะ

@paiboona: ครับ อยากให้คนที่ร่างคือคนที่ถูกบังคับใช้ด้วยเช่นสื่อ ไอเอสพี โฮสติ้ง คนทำเว็บ ฯลฯไม่ใช่ตำราของรัฐ+นักวิชาการที่ไม่ได้ปฏิบัติจริงครับ

@lekasina ต้องขึ้นกับว่า กระบวนการยกร่างของเขาจะเปิดโอกาสให้ปชช. ในแต่ละภาคส่วนเข้าไปมีส่วนร่วมมากน้อยแค่ไหนด้วยใช้่ไหมคะ

@paiboona: ใช่ครับ

View :2851

ICT Policy

October 1st, 2011 No comments

The Information and Communication Technology Minister Anudit Nakornthap said at the seminar hosted by Information and Technology Press Club (ITPC) last month that the short-term ICT policies are free tablet and free wifi in the pubic area that will start within late of this year.

Anudit Nakornthap

And, the ministry will drive its main policy that is to increase broadband penetration rate to achieve 80 to 85 per cent in the next four years, from now less than 10 per cent.

Currently, 2G network in Thailand is over demand but the quality in only voice, we plan to increase network to 3G in order to allow people to experience the triple play- voice, data, and video, said Anudit.

“For free wifi, we have already develop the action and implement plans. It is free for people to use wifi for free in education, government area, and tourist area. We can offer the free wifi from using USO fund,” said Anudit.

He added that free wifi will encourage the local content development. The increasing broadband penetration rate will also help open the room for local content development. Free wifi project, will be started within this year and the model of investment will be collaboration between government and private sector.

For e-commerce, Thailand is now not go forwards as well. it is also the duty of ICT Ministry. in the next 6 to 9 months, the e-commerce in Thailand will be more active. The ICT Ministry will work closely with the Ministry of Commerce to encourage the e-commerce deployment in Thailand.

Moreover, ICT Ministry plans to drive e-government. Smart ID card will be utilized mostly in order to provide e-government services to people.

“Now, we have the main data based included people and business data baed from Department of Internal and Department of Revenue, we will to integrate both of them and utilize this data base.”

He added that the ICT Ministry will drive the government information network (GIN) project that will be utilized and to allow government organizations to not duplicated invest and not integrated. The network will be utilized to conduct tele-conference and to increase the quality of government’s services.

The ministry also focuses on the prime ministerial operation center (PMOC).

“For example, in healthcare segment, currently there are network laid down to connect the local public health in the local area to the center to conduct the tele-health service. Smart Thailand is aimed to allow Thai people to use IT to improve their daily life.
The ICT Ministry will establish the national data center and to optimize the smart ID card to get to government services efficiency,” said Anudith.

Since the government’s main policies are to support SMEs business, software business in Thailand is accounted in this SMEs; and to promote the local software development. Once, the network coverage is cover wide area will lead and increase demand in local content/ local software consumption as well. The government will exercise this policy through the Software Industry Promotion Agency (Sipa).

http://www.mict.go.th/download/article/article_20110826155742.pdf

View :2429

“ดิจิทอลล์ฯ”… น้องใหม่ ฝีมือเก๋า ในสนามดิจิตอล แมกกาซีน

October 1st, 2011 No comments

เมื่อเร็วๆ นี้ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ของไทยอย่างเอไอเอส ได้เปิดตัวดิจิตอล แมกกาซีนภายใต้ชื่อ “เซเรเนด ดิจิตอล แมกกาซีน” (Serenade Digital Magazine) ดิจิตอล แมกกาซีน ราย 3 เดือนที่มีวัตถุประสงค์ไม่เพื่อตอบโจทย์งานด้านลูกค้าสัมพันธ์ (CRM: Customer Relationship Management) ขององค์กร แต่เพื่อขยายฐานลูกค้าใหม่ผ่านสื่อนิตยสารในรูปแบบดิจิตอลเล่มแรกของบริษัท

เบื้องหลังความสำเร็จของ “เซเรเนด ดิจิตอล แมกกาซีน” คือ การทำงานอย่างหนักของทีมงานกว่า 10 ชีวิตของบริษัทน้องใหม่อายุยังไม่ถึงปีอย่าง บริษัท ดิจิทอลล์ ประเทศไทย จำกัด บริษัทที่ฝากฝีไม้ลายมือในการผลิตดิจิตอล แมกกาซีนชื่อดังอย่าง mars มาแล้วนั่นเอง

กมลวรรณ ดีประเสริฐ กรรมการบริหาร บริษัท ดิจิทอลล์ ประเทศไทย จำกัด
เล่าว่า ธุรกิจหลักของบริษัทคือการพัฒนาแอพพลิเคชั่นด้านเนื้อหาข้อมูล (Informative Application) สำหรับอุปกรณ์แท็ปเล็ต (Tablet) หลังจากที่ทีมงานของบริษัทเก็บสะสมประสบการณ์จากการพัฒนาดิจิตอล แมกกาซีนภายใต้แบรนด์ mars มาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว จนออกมาตั้งบริษัทรับพัฒนาดิจิตอล แมกกาซีนเมื่อต้นปีที่ผ่านมา และเริ่มรับผลิตดิจิตอล แมกกาซีนให้กับเอไอเอส รวมถึงดิจิตอล แมกกาซีนสำหรับองค์กรอีก 2-3 ราย ที่จะเปิดตัวในอนาคตอันใกล้นี้ นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างการพัฒนาดิจิตอล แมกกาซีนของตัวเอง (ที่เป็นรูปแบบหนังสือ คือ ไม่ได้ออกเป็นรายเดือนหรือรายปักษ์) ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นหนังสือดิจิตอล แมกกาซีนเกี่ยวกับเรื่องการทำอาหาร และเรื่องท่องเที่ยวสำหรับ iPhone และ iPad ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดตัวได้ภายในครึ่งปีหลังนี้

กมลวรรณ บอกว่า ตลาดดิจิตอล แมกกาซีนเป็นตลาดใหม่ที่มีอนาคตทางธุรกิจ แต่เป็นช่วงที่ต้องทำความเข้าใจกับตลาดว่าดิจิตอล แมกกาซีน นั้นแตกต่างจากการนำไฟล์งานหนังสือ หรือไฟล์งานสื่อสิ่งพิมพ์ ที่ผ่านการออกแบบและจัดหน้าแบบสื่อกระดาษมาจับใส่อุปกรณ์แท็ปเล็ตที่มีความสามารถในการนำเสนอเนื้อหาที่มากกว่าตัวอักษรและภาพนิ่ง เพราะนอกจากจะเป็นการทำให้ลดทอนศักยภาพในการนำเสนอของอุปกรณ์แท็ปเล็ตแล้ว ยังสร้างความเข้าใจผิดให้กับตลาดดิจิตอล แมกกาซีน และทำให้สิ้นเปลืองต้นทุนและแรงงาน และยังสร้างผลกระทบเชิงลบต่อธุรกิจนี้ เพราะรูปแบบและวิธีการทำงานในการพัฒนาดิจิตอล แมกกาซีน หรือ การพัฒนาเนื้อหาในรูปแบบดิจิตอลนั้น เป็นคนละแนวคิดกับรูปแบบการพัฒนาเนื้อหาในรูปแบบและแนวคิดเดิมๆ

“หากเราไม่ทำความเข้าใจกับตลาดว่าดิจิตอล แมกกาซีนไม่ใช่การหยิบไฟล์ PDF มาใส่ แล้วเปิดอ่านแบบพลิกไปพลิกมา ซึ่งการทำแบบนี้นอกจากจะไม่ช่วยทำให้ตลาดดิจิตอล แมกกาซีนเติบโต ในเชิงการตอบสนองจากผู้อ่านแล้ว จะยังไม่ช่วยสร้างการเติบโตของดิจิตอล แมกกาซีนในแง่ของเม็ดเงินโฆษณาที่คาดว่าจะไหลเข้ามา ซึ่งตลาดในช่วงนี้เป็นช่วงเริ่มต้น ที่รายได้จากเม็ดเงินโฆษณายังไม่ค่อยไหลเข้ามามากนัก”

กมลวรรณ ย้ำว่า ตลาดดิจิตอล แมกกาซีนในไทยนั้นยังเล็กแต่มีแนวโน้มที่ดี แต่ตลาดยังไม่แข็งแรงพอที่จะสามารถสร้างรายได้เลี้ยงตัวเองได้ ไม่ว่าจะเป็นรายได้จากเม็ดเงินโฆษณา และรายได้จากค่าสมาชิก หรือค่าซื้อแอพพลิเคชั่น ดังนั้น ดิจิตอล แมกกาซีนในช่วงจะเน้นหนักไปที่วารสารองค์กร (Corporate Magazine) ที่ตอบโจทย์เพื่องานประชาสัมพันธ์และสร้างภาพลักษณ์ขององค์ เป็นหลักมากกว่าที่จะเป็นดิจิตอล แมกกาซีนที่เป็นนิตยสารกระโดดเข้ามาทำ

“ในสนามนี้ทุกคนที่เข้ามาล้วนใหม่หมด และทุกคนสามารถเข้ามาแบ่งเค้กก้อนนี้ได้ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของเนื้อหา บริษัทซอฟต์แวร์ หรือธุรกิจโรงพิมพ์ แต่ดิจิทอลล์ ประเทศไทยเรามีความได้เปรียบตรงที่เรามีความเป็นสื่อ เราผ่านงานทำเว็บข่าวของเครือผู้จัดการและมีส่วนในการพัฒนาเว็บ www.manager.co.th ปัจจุบันเท่าที่มองไปในตลาด เราจะพบว่ามีบริษัทพัฒนาดิจิตอล แมกกาซีนรายหลักๆ อยู่ประมาณ 5 ราย ซึ่งเราไม่ถือว่าเป็นคู่แข่งกัน เพราะตลาดมันเพิ่งเริ่ม และตลาดมันใหญ่มาก ตอนนี้เรามองว่าเราเป็นพันธมิตรที่จะช่วยกันสร้างตลาดมากกว่า ตลาดมันใหญ่และมีอะไรให้เล่นอีกเยอะ เพราะเราไม่จำกัดตัวเองว่าเป็นผู้ผลิตดิจิตอล แมกกาซีน แต่เรามองว่าเราเป็นผู้ผลิตแอพพลิเคชั่นด้านเนื้อหา ซึ่งโดยเทคโนโลยีเราสามารถนำเสนอลูกเล่นในการนำเสนอได้อีกมากมาย ความท้าทายในปัจจุบัน กลับกลายเป็นการทำความเข้าใจกับตลาดว่าดิจิตอล แมกกาซีน หรือการนำเสนอเนื้อในรูปแบบดิจิตอลมันเป็นอะไรที่มากไปกว่า การอ่านหนังสือบนสื่อดิจิตอล ซึ่งเราต้องช่วยกัน” กมลวรรณทิ้งท้ายไว้อย่างน่าสนใจ

View :3676
Categories: Digital Magazine, Tablet Tags: